คนท้องปวดหัว รับมืออย่างไร แม่ท้องปวดหัวอันตรายต่อลูกในครรภ์ไหม?

ในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่อาจต้องเผชิญกับอาการคนท้องหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดหลัง และอาการอื่น ๆ คุณแม่บางคนยังมีอาการปว 

 1708 views

ในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่อาจต้องเผชิญกับอาการคนท้องหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดหลัง และอาการอื่น ๆ คุณแม่บางคนยังมีอาการปวดหัวร่วมด้วย ซึ่งบางครั้งอาการปวดหัวระหว่างตั้งครรภ์นั้น อาจเป็นสัญญาณอันตรายของการเจ็บป่วยได้ วันนี้ Mama Story จะพาคุณแม่มาดูกันว่า คนท้องปวดหัว เกิดจากอะไร และสามารถรับมืออย่างไรได้บ้าง พร้อมแล้ว ไปดูกันค่ะ

คนท้องปวดหัว เกิดจากอะไร?

คุณแม่ตั้งครรภ์ อาจรู้สึกปวดหัวได้บ่อยได้ช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตามสาเหตุของอาการปวดหัวนั้น ยังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจน แต่อาจเกิดจากการเปลี่ยนของระดับฮอร์โมน หรือปริมาณเลือดในร่างกายที่เพิ่มสูงขึ้น โดยอาการปวดหัวจะลดลงเมื่อคุณแม่เข้าสู่ช่วงไตรมาสที่ 2 เพราะฮอร์โมนในร่างกายเริ่มปรับตัว และมีการคงที่ นอกจากนี้อาการปวดหัวระหว่างตั้งครรภ์ ยังสามารถเกิดขึ้นได้ จากความหิว ความเครียด อาการซึมเศร้า การขาดน้ำ โรคภูมิแพ้ นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ และการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

ทั้งนี้อาการปวดหัวของคนท้องในไตรมาสที่ 3 ยังสามารถเกิดขึ้นได้จากการยืน หรือนั่งนาน ๆ และน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามอาการปวดหัวในไตรมาสที่ 3 อาจเสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูง และภาวะครรภ์เป็นพิษได้ ดังนั้นคุณแม่จึงควรเฝ้าระวังอาการ และควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องปวดหลัง อันตรายไหม บรรเทาอาการด้วยวิธีใดได้บ้าง?

ปวดหัว



ปวดหัวขณะตั้งครรภ์อันตรายหรือไม่?

หากคุณแม่มีอาการปวดหัวในช่วงไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 3 อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพได้ ไม่ว่าจะเป็นภาวะครรภ์เป็นพิษ ภาวะความดันโลหิตสูง สายตาพร่ามัว และการทำงานตับไตผิดปกติ เป็นต้น หากคุณแม่พบอาการผิดปกติต่าง ๆ ร่วมกับอาการปวดหัว หรือมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจรักษา และตรวจดูร่างกายเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณแม่ และลูกน้อยในครรภ์ โดยอาการปวดหัวอันตรายที่คุณแม่ควรรีบไปพบแพทย์ มีดังนี้

  • ปวดหัวรุนแรงเฉียบพลัน
  • ปวดหัวร่วมกับมีไข้ และคอแข็ง
  • ปวดหัวอย่างรุนแรง และมีอาการพูดไม่ชัด ตาพร่ามัว เซื่องซึม และเป็นเหน็บชา
  • มีอาการคัดจมูก เจ็บบริเวณใต้ตา หรือส่วนอื่น ๆ ของใบหน้าร่วมกับอาการปวดหัว
  • ปวดหัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อาจมีปัญหาการมองเห็น ปวดท้อง และคลื่นไส้ร่วมด้วย

ปวดหัวไม่มาก กินยาพาราได้ไหม?

หากคุณแม่มีอาการปวดหัวเล็กน้อย สามารถบรรเทาอาการตัวเองได้เบื้องต้น ก็จะช่วยลดอาการปวดลดได้ แต่หากคุณแม่มีอาการปวดหัวมากจริง ๆ สามารถยาพาราเซตามอลได้ แต่หากคุณแม่มีอาการไมเกรน หรือมีอาการป่วยอื่น ๆ ร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการรับประทานยา ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง โดยเฉพาะยาแอสไพริน ยาแก้ปวดไมเกรน และยาไอบูโพรเฟน เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายคุณแม่ได้

วิธีสังเกตอาการปวดหัวระหว่างตั้งครรภ์

อาการปวดหัวระหว่างตั้งครรภ์ สามารถเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ทุกคน เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง โดยคุณแม่สามารถสังเกตอาการปวดหัวได้จากการดูสีของปัสสาวะ หากปัสสาวะมีสีอ่อน อาจอยู่ในภาวะขาดน้ำ หรือการเมื่อยล้าได้ รวมทั้งหากคุณแม่นอนหลับไม่เพียงพอ ก็อาจส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวได้เช่นกัน นอกจากนี้ การขาดวิตามินบางอย่าง ก็อาจเป็นสาเหตุในการเกิดอาการปวดหัวได้อีกเช่นกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง : 5 วิธีแก้คลื่นไส้อาเจียน ปัญหาน่าปวดหัวของคุณแม่ตั้งครรภ์

ปวดหัว



วิธีรับมืออาการปวดหัวระหว่างตั้งครรภ์

สำหรับวิธีการรับมืออาการปวดหัวระหว่างตั้งครรภ์นั้น คุณแม่สามารถบรรเทาอาการได้เบื้องต้น ด้วยการดูแลตัวเอง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยวิธีการบรรเทาอาการปวดหัว มีดังนี้

  • รับประทานอาหารให้ตรงเวลา : คุณแม่ควรรับประทานอาหารให้ตรงเวลา และดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 8-12 แก้ว เพื่อช่วยป้องกันภาวะการขาดน้ำ และอาการปวดหัวได้
  • อย่าปล่อยให้รู้สึกหิว : คุณแม่บางคนอาจรอให้รู้สึกหิวก่อนรับประทานอาหาร อย่างไรก็ตามหากมีอาการปวดหัว คุณแม่ควรรับประทานอาหารมื้อย่อยบ่อย ๆ เช่น ผลไม้ โยเกิร์ต หรือแคร็กเกอร์ เป็นต้น เพื่อช่วยป้องกันอาการหิวที่อาจทำให้เกิดการปวดหัวได้
  • นอนหลับให้เพียงพอ : การนอนหลับพักผ่อนเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในช่วงการตั้งครรภ์ คุณแม่ควรนอนหลับให้เพียงพอ โดยการนอนหัวค่ำ และตื่นเช้า พยายามหลีกเลี่ยงการนอนดึก ก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวขณะตั้งครรภ์ได้
  • รับประทานยาแก้ปวด : หากคุณแม่มีอาการปวดหัวไม่มาก สามารถรับประทานยาแก้ปวดอย่าง พาราเซตามอลเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดได้ นอกจากนี้คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาแอสไพริน ยาแก้ปวดไมเกรน และยาไอบูโพรเฟน เพราะอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
  • ทำกิจกรรมคลายเครียด : การทำกิจกรรมคลายเครียด ช่วยบรรเทาอาการปวดหัว และช่วยผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี เช่น การดูหนัง ฟังเพลง ไปช้อปปิ้ง หรือนั่งสมาธิ เป็นต้น ก็จะช่วยลดความวิตกกังวล และการปวดหัวได้เป็นอย่างดี
  • ออกกำลังกาย : การออกกำลังกาย นอกจากจะดีต่อสุขภาพคุณแม่แล้ว ยังช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้ด้วย โดยคุณแม่สามารถออกกำลังกายเบา ๆ เช่น การเดิน การวิ่งเหยาะ โยคะ พิลาทิส หรือว่ายน้ำ เป็นต้น ก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้ดีขึ้น
  • ไปนวด : คุณแม่สามารถไปนวดบริเวณไหล่ และคอ เพื่อให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย ลดอาการปวดเมื่อย และช่วยบรรเทาอาการปวดหัวในช่วงตั้งครรภ์ได้
  • ประคบร้อนหรือประคบเย็น : นอกจากการนวดแล้ว การประคบร้อน หรือประคบเย็น ยังสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้ โดยคุณแม่สามารถใช้ผ้าขนหนู และน้ำแข็งประคบบริเวณหัว ก็จะช่วยลดอาการปวดได้เป็นอย่างดี
  • หลีกเลี่ยงการกระตุ้นให้ปวดหัว : นอกเหนือจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารบางชนิด หรือดมกลิ่นต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดอาการเวียนหัว และปวดหัว เพราะอาจไปกระตุ้นให้คุณแม่ปวดหัวกว่าเดิมได้

ปวดหัวระหว่างตั้งครรภ์ อาจเป็นอาการทั่วไปที่สามารถเกิดขึ้นได้ในคนท้อง คุณแม่สามารถใช้วิธีบรรเทาอาการต่าง ๆ ข้างต้น เพื่อช่วยลดอาการปวดหัวได้ ทั้งนี้หากคุณแม่มีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง ร่วมกับการมีไข้ คอแข็ง ตาพร่ามัว และอาการอื่น ๆ ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อเข้ารับการรักษาต่อไป เพราะอาจเสี่ยงต่อภาวะครรภ์เป็นพิษ และภาวะความดันโลหิตสูงได้


บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

คนท้องกินเยอะขึ้นเพราะอะไร กินแบบไหนถึงไม่อ้วน?

แม่ท้องปวดท้องน้อยเกิดจากอะไร อันตรายหรือเปล่า?

แม่ท้องง่วงนอนบ่อย เกิดจากอะไร ทำอย่างไรให้ง่วงน้อยลง

ที่มา : 1, 2, 3